ที่ เที่ยว หน้า ร้อน ภาค อีสาน

ที่ เที่ยว หน้า ร้อน ภาค อีสาน สัมผัสเสน่ห์ธรรมชาติ วัฒนธรรม และอาหาร

แนะนำ ที่ เที่ยว หน้า ร้อน ภาค อีสาน หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย เป็นภูมิภาคที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ทั้งในด้านวัฒนธรรม ประเพณี ธรรมชาติ และแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงาม ทำให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ

ที่ เที่ยว หน้า ร้อน ภาค อีสาน 2025

ที่ เที่ยว หน้า ร้อน ภาค อีสาน

ภาคอีสานไม่ได้มีดีแค่อาหารอร่อยและวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่น่าทึ่งและยังคงความอุดมสมบูรณ์ หากคุณเป็นคนรักธรรมชาติและการเดินทาง ภาคอีสานคือจุดหมายปลายทางที่ไม่ควรพลาด!

แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติในภาคอีสาน ที่ต้องไปสัมผัส

ภาคอีสานเต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สวยงาม มีทั้งภูเขา น้ำตก แม่น้ำ และถ้ำที่น่าตื่นตาตื่นใจ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบธรรมชาติและความสงบเงียบ

1. สามพันโบก (อุบลราชธานี)

ที่มา : thairath.co.th

📍 ที่ตั้ง: อำเภอโพธิ์ไทร จังหวัดอุบลราชธานี
💡 จุดเด่น:

  • “แกรนด์แคนยอนเมืองไทย” เป็นแก่งหินขนาดใหญ่กลางแม่น้ำโขง
  • หินถูกน้ำกัดเซาะจนเกิดรูปร่างแปลกตาหลายร้อยหลุม
  • สามารถล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขงและถ่ายภาพสุดอาร์ตได้
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูแล้ง (พฤศจิกายน – เมษายน) เพราะน้ำลดจะเห็นแก่งหินชัดเจน

2. อุทยานแห่งชาติภูเรือ (เลย)

📍 ที่ตั้ง: อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย
💡 จุดเด่น:

  • เป็นหนึ่งในจุดที่หนาวที่สุดของไทย
  • จุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงาม
  • สามารถชมดอกไม้เมืองหนาวและป่าสนสองใบได้
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) อากาศเย็นจัด เหมาะสำหรับสัมผัสบรรยากาศโรแมนติก

3. ผาชนะได (อุบลราชธานี)

📍 ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
💡 จุดเด่น:

  • จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นแห่งแรกของประเทศไทย
  • สามารถมองเห็นวิวของแม่น้ำโขงและป่าธรรมชาติได้กว้างไกล
  • บรรยากาศเงียบสงบ เหมาะสำหรับสายธรรมชาติ
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่ท้องฟ้าปลอดโปร่ง

4. ภูทอก (บึงกาฬ)

ที่มา : thairath.co.th

📍 ที่ตั้ง: อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ
💡 จุดเด่น:

  • ภูเขาหินทรายที่มีบันไดไม้ไต่ระดับขึ้นไปถึงยอด
  • มีจุดชมวิว 360 องศา มองเห็นแม่น้ำโขงและผืนป่าอีสาน
  • เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอันเงียบสงบ
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) อากาศเย็นสบาย

5. แก่งคุดคู้ (เลย)

📍 ที่ตั้ง: อำเภอเชียงคาน จังหวัดเลย
💡 จุดเด่น:

  • แก่งหินขนาดใหญ่ริมแม่น้ำโขง
  • สามารถนั่งเรือชมวิวหรือเดินเล่นริมน้ำได้
  • มีร้านอาหารอร่อยและของฝากขึ้นชื่อ เช่น มะพร้าวแก้ว
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูหนาว – ฤดูร้อน (พฤศจิกายน – พฤษภาคม) น้ำลดจะเห็นแก่งหินชัด

6. หาดชมดาว (อุบลราชธานี)

📍 ที่ตั้ง: อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี
💡 จุดเด่น:

  • คล้ายทะเลทรายเล็ก ๆ ในอีสาน
  • เกิดจากการลดระดับของน้ำในแม่น้ำโขง
  • เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูแล้ง (พฤศจิกายน – เมษายน) น้ำลดเผยให้เห็นหาดทรายและแก่งหิน

7. ภูกระดึง (เลย)

ที่มา : travel.kapook.com

📍 ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูกระดึง จังหวัดเลย
💡 จุดเด่น:

  • เส้นทางเดินป่าที่ท้าทายและสวยงาม
  • จุดชมวิวสุดโรแมนติก เช่น ผาหล่มสัก ผานกแอ่น
  • มีน้ำตกและป่าสนอันร่มรื่น
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: เปิดให้ท่องเที่ยวช่วง ตุลาคม – พฤษภาคม เท่านั้น

8. ป่าหินงาม (ชัยภูมิ)

📍 ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติป่าหินงาม จังหวัดชัยภูมิ
💡 จุดเด่น:

  • กลุ่มหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างแปลกตาคล้ายเห็ดและสัตว์ต่าง ๆ
  • ที่เที่ยวสำคัญในเทศกาลดอกกระเจียวบาน (มิถุนายน – สิงหาคม)
  • อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การเดินชมธรรมชาติ
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูฝน (มิถุนายน – สิงหาคม) ช่วงที่ดอกกระเจียวบานสวยที่สุด

9. น้ำตกถ้ำพระ (บึงกาฬ)

📍 ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ
💡 จุดเด่น:

  • น้ำตกไหลผ่านซอกหินเป็นชั้น ๆ สวยงาม
  • สามารถเล่นน้ำได้ และมีเส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
  • ใกล้กับ “หินสามวาฬ” แลนด์มาร์คชื่อดังของบึงกาฬ
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ฤดูฝน (กรกฎาคม – ตุลาคม) น้ำตกมีน้ำเยอะ

10. หินสามวาฬ (บึงกาฬ)

ที่มา : travel.kapook.com

📍 ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูลังกา จังหวัดบึงกาฬ
💡 จุดเด่น:

  • ก้อนหินขนาดมหึมาสามก้อนที่มีรูปร่างคล้ายวาฬสามตัว
  • เป็นจุดชมวิวแม่น้ำโขงที่สวยงาม
  • สามารถเดินขึ้นไปถ่ายรูปวิวพาโนรามาได้
    🗓 ช่วงเวลาที่แนะนำ: ตลอดปี แต่ช่วงเช้าและเย็นเหมาะที่สุด เพราะแดดไม่ร้อน

วัฒนธรรมและประเพณี ที่ เที่ยว หน้า ร้อน ภาค อีสาน

ภาคอีสานมีวัฒนธรรมที่โดดเด่นและแตกต่างจากภูมิภาคอื่น ๆ ของไทย ประเพณีที่สำคัญ เช่น บุญบั้งไฟของจังหวัดยโสธร ซึ่งเป็นพิธีกรรมที่จัดขึ้นเพื่อขอฝนจากเทวดา นอกจากนี้ยังมีประเพณีแห่ผีตาโขนที่จังหวัดเลย ซึ่งเป็นเทศกาลที่มีสีสันและสะท้อนถึงความเชื่อในเรื่องของวิญญาณและสิ่งศักดิ์สิทธิ์

10 วัฒนธรรมและประเพณีที่ห้ามพลาด!

ภาคอีสานเป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรมและประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ สืบทอดจากบรรพบุรุษและผสมผสานความเชื่อทางศาสนา ความศรัทธา และวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม เรามาดูกันว่า 10 วัฒนธรรมและประเพณีสำคัญของภาคอีสานมีอะไรบ้าง

1. บุญบั้งไฟ (จังหวัดยโสธร และทั่วภาคอีสาน)

ที่มา : travel.kapook.com

📍 ช่วงเวลา: พฤษภาคม – มิถุนายน
💡 รายละเอียด:

  • เป็นประเพณีขอฝนที่จัดขึ้นเพื่อบูชาเทพพญาแถน
  • มีการแข่งขันจุดบั้งไฟ (จรวดดินดำ) เพื่อส่งสัญญาณไปยังสวรรค์
  • ขบวนแห่บั้งไฟสวยงาม พร้อมการแสดงพื้นเมืองสนุกสนาน

2. ประเพณีแข่งเรือยาว (จังหวัดนครพนม หนองคาย และริมแม่น้ำโขง)

📍 ช่วงเวลา: กันยายน – ตุลาคม
💡 รายละเอียด:

  • จัดขึ้นในช่วงออกพรรษา เพื่อเฉลิมฉลองและบูชาแม่น้ำโขง
  • มีการแข่งขันเรือยาวที่ใช้ฝีพายหลายสิบคน
  • บรรยากาศคึกคัก สนุกสนาน และมีตลาดสินค้าพื้นเมือง

3. ประเพณีแห่ผีตาโขน (จังหวัดเลย)

ที่มา : thairath.co.th

📍 ช่วงเวลา: มิถุนายน – กรกฎาคม (ขึ้นอยู่กับวันพระตามปฏิทินจันทรคติ)
💡 รายละเอียด:

  • เป็นส่วนหนึ่งของงานบุญหลวงในอำเภอด่านซ้าย
  • ผู้ร่วมงานจะแต่งกายด้วยหน้ากากผีตาโขนและชุดหลากสี
  • มีการละเล่นสนุกสนานและการทำบุญตามความเชื่อทางพุทธศาสนา

4. ประเพณีไหลเรือไฟ (จังหวัดนครพนม และริมแม่น้ำโขง)

📍 ช่วงเวลา: วันออกพรรษา (ตุลาคม)
💡 รายละเอียด:

  • เป็นพิธีกรรมบูชาพระแม่คงคาและบูชาพระพุทธเจ้า
  • ชาวบ้านจะประดิษฐ์เรือไฟจากต้นกล้วยและวัสดุธรรมชาติ
  • ในตอนกลางคืนจะปล่อยเรือไฟลอยไปตามแม่น้ำโขง สวยงามมาก

5. ประเพณีสงกรานต์อีสาน และฮีต 12 คอง 14 (ทั่วภาคอีสาน)

📍 ช่วงเวลา: 13-15 เมษายน
💡 รายละเอียด:

  • การสรงน้ำพระ รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
  • มีการเล่นน้ำสงกรานต์และการละเล่นพื้นเมือง
  • ในบางพื้นที่มีพิธีสู่ขวัญข้าวและการรำพื้นบ้าน

6. ฮีตสิบสอง คองสิบสี่ (แนวทางชีวิตของชาวอีสาน)

📍 ช่วงเวลา: ตลอดทั้งปี
💡 รายละเอียด:

  • “ฮีตสิบสอง” คือประเพณี 12 เดือนของชาวอีสาน เช่น บุญเดือนสาม บุญมหาชาติ บุญข้าวประดับดิน ฯลฯ
  • “คองสิบสี่” คือจารีตประเพณีที่ควรปฏิบัติ เช่น ความกตัญญู การให้ทาน การรักษาศีล ฯลฯ

7. การฟ้อนรำและดนตรีพื้นบ้านอีสาน

ที่มา : isangate.com

📍 ช่วงเวลา: ตลอดทั้งปี
💡 รายละเอียด:

  • การฟ้อนรำ เช่น ฟ้อนสาวไหม ฟ้อนภูไท รำเซิ้งกระติบข้าว
  • ดนตรีพื้นบ้านที่มีเสน่ห์ เช่น หมอลำ แคน พิณ ซอ
  • เป็นส่วนสำคัญของงานบุญและเทศกาลต่าง ๆ

8. ประเพณีทำบุญข้าวสาก (ทั่วภาคอีสาน)

📍 ช่วงเวลา: วันเพ็ญเดือนสิบ (กันยายน – ตุลาคม)
💡 รายละเอียด:

  • เป็นพิธีทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้บรรพบุรุษ
  • ชาวบ้านจะนำอาหารและข้าวสารไปถวายพระที่วัด
  • มีการทำ “ข้าวสาก” ซึ่งเป็นขนมจากข้าวเหนียวคลุกกับมะพร้าวและน้ำตาล

9. ประเพณีแซนโฎนตา (จังหวัดสุรินทร์ และชาวเขมรอีสาน)

📍 ช่วงเวลา: กันยายน (วันแรม 15 ค่ำ เดือน 10)
💡 รายละเอียด:

  • เป็นพิธีเซ่นไหว้บรรพบุรุษของชาวไทยเชื้อสายเขมร
  • มีการทำอาหารและขนมพื้นเมือง เช่น ข้าวต้มมัด ขนมเทียน
  • มีพิธีกรรมที่คล้ายกับสารทจีน แต่เป็นแบบอีสาน

10. พิธีสู่ขวัญข้าว (ทั่วภาคอีสาน)

📍 ช่วงเวลา: หลังการเก็บเกี่ยว (พฤศจิกายน – ธันวาคม)
💡 รายละเอียด:

  • เป็นพิธีขอบคุณแม่โพสพและสร้างขวัญกำลังใจให้ชาวนา
  • มีการทำพิธีบายศรี สวดมนต์ และถวายอาหารพระ
  • ในบางพื้นที่มีการเลี้ยงฉลองและรำวงพื้นบ้าน

วัฒนธรรมและประเพณีของภาคอีสานสะท้อนถึงวิถีชีวิต ความเชื่อ และความศรัทธาของชาวอีสานที่ผูกพันกับธรรมชาติและศาสนา งานประเพณีเหล่านี้ไม่เพียงแต่มีคุณค่าทางจิตใจ แต่ยังเป็นเสน่ห์ที่ดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเรียนรู้และสัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ

อาหารและของฝาก

ที่มา : hungryhub.com

อาหารอีสานขึ้นชื่อในเรื่องรสชาติที่จัดจ้านและมีเอกลักษณ์ เมนูยอดนิยมได้แก่ ส้มตำ ลาบ น้ำตก และไก่ย่าง ซึ่งเป็นอาหารที่ได้รับความนิยมทั่วประเทศ นอกจากนี้ยังมีของฝากที่ขึ้นชื่อ เช่น แหนมเนืองจากจังหวัดหนองคาย และข้าวจี่จากหลายจังหวัดในภาคอีสาน

อาหารอีสานยอดนิยม

1. ส้มตำ

📌 จุดเด่น:

  • เป็นเมนูที่โด่งดังไปทั่วประเทศ มีหลายสูตร เช่น ตำไทย ตำลาว ตำปูปลาร้า
  • ใช้วัตถุดิบหลักคือ มะละกอขูด น้ำปลาร้า มะนาว น้ำตาลปี๊บ และพริก
  • มีรสชาติเปรี้ยว เค็ม หวาน เผ็ด ครบเครื่อง

2. ลาบ

📌 จุดเด่น:

  • เป็นอาหารประจำภาคอีสาน มีทั้งลาบหมู ลาบไก่ ลาบเป็ด
  • ใช้เนื้อสัตว์สับผสมกับเครื่องปรุง เช่น ข้าวคั่ว น้ำปลา พริกป่น
  • นิยมกินคู่กับข้าวเหนียวและผักสด

3. น้ำตก

📌 จุดเด่น:

  • คล้ายลาบ แต่เนื้อสัตว์ไม่ได้สับละเอียด มีทั้งหมูย่าง เนื้อย่าง
  • ปรุงรสด้วยข้าวคั่ว น้ำปลา พริกป่น และมะนาว
  • มีกลิ่นหอมจากข้าวคั่ว รสชาติแซ่บ กลมกล่อม

4. ไก่ย่าง

📌 จุดเด่น:

  • ไก่ย่างสูตรอีสานหมักด้วยเครื่องเทศ เช่น กระเทียม พริกไทย รากผักชี
  • ย่างด้วยไฟอ่อนจนหนังกรอบ เนื้อในนุ่ม
  • มักกินคู่กับส้มตำและข้าวเหนียว

5. ต้มแซ่บกระดูกหมู

📌 จุดเด่น:

  • ซุปที่มีรสเปรี้ยวเผ็ด ซดร้อน ๆ อร่อย
  • ใส่สมุนไพร เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกแห้ง
  • นิยมใช้กระดูกอ่อนหรือต้มเนื้อติดกระดูกให้ความหวานจากน้ำต้มกระดูก

6. แกงอ่อม

ที่มา: chillpainai.com

📌 จุดเด่น:

  • เป็นแกงพื้นบ้านที่ใส่ผักหลายชนิด เช่น ตำลึง ฟักทอง ผักชีลาว
  • มีน้ำแกงข้นจากข้าวเบือ (ข้าวสารตำละเอียด)
  • มักใช้เนื้อหมู เนื้อไก่ หรือเนื้อวัว

7. ก้อย และซกเล็ก

📌 จุดเด่น:

  • ก้อยเป็นเมนูเนื้อดิบหรือสุกกึ่ง ๆ คลุกกับข้าวคั่ว พริก และสมุนไพร
  • ซกเล็กเป็นเมนูเนื้อดิบที่นิยมกินกับเลือดสด
  • มีรสชาติเผ็ดและหอมสมุนไพร นิยมกินเป็นกับแกล้ม

8. แจ่วบอง

📌 จุดเด่น:

  • น้ำพริกสูตรอีสาน ทำจากปลาร้าต้ม ผสมกับพริก ข่า ตะไคร้
  • รสชาติกลมกล่อม เผ็ด เค็ม หอมกลิ่นปลาร้า
  • นิยมกินกับข้าวเหนียวและผักสด

9. ปลาส้ม

📌 จุดเด่น:

  • เป็นปลาหมักเปรี้ยวจากข้าวและเกลือ
  • มีรสชาติเปรี้ยว เค็ม กินแบบทอดหรือย่างก็อร่อย
  • นิยมใช้ปลาตะเพียนหรือปลานิล

10. ข้าวจี่

📌 จุดเด่น:

  • อาหารพื้นบ้านที่นำข้าวเหนียวมาปั้นเป็นก้อน ชุบไข่ แล้วย่างไฟ
  • หอมกลิ่นข้าวเหนียวและไข่ รสชาติอร่อย
  • เป็นเมนูที่นิยมในช่วงฤดูหนาว

ของฝากขึ้นชื่อจากภาคอีสาน

ที่มา : api2.krua.co

1. หมูยอ (อุบลราชธานี, ขอนแก่น, อุดรธานี)

📌 จุดเด่น:

  • หมูยออีสานขึ้นชื่อเรื่องความเหนียว นุ่ม หอมเครื่องเทศ
  • มีทั้งหมูยอพริกไทยดำ หมูยอหนัง หมูยอทอด
  • นิยมซื้อเป็นของฝากจากจังหวัดอุบลฯ และอุดรฯ

2. แหนมเนือง (หนองคาย, อุดรธานี)

📌 จุดเด่น:

  • เป็นอาหารเวียดนามที่ได้รับความนิยมมากในอีสาน
  • เสิร์ฟพร้อมหมูย่าง แป้งห่อ ผักสด และน้ำจิ้มถั่ว
  • ร้านดังเช่น แหนมเนืองแดง (หนองคาย) แหนมเนืองวรรณ (อุดรฯ)

3. ปลาร้า (ทั่วภาคอีสาน)

📌 จุดเด่น:

  • ปลาหมักเกลือและข้าวคั่วจนมีกลิ่นหอม
  • มีทั้งปลาร้าสับ ปลาร้าต้ม ปลาร้าทอด
  • นิยมซื้อไปทำส้มตำ แจ่วบอง หรือน้ำพริกปลาร้า

4. ข้าวเหนียวเขาวง (กาฬสินธุ์)

📌 จุดเด่น:

  • เป็นข้าวเหนียวพันธุ์ดี หอม นุ่ม อร่อย
  • ปลูกบนพื้นที่ดินดีในจังหวัดกาฬสินธุ์
  • นิยมซื้อกลับไปกินกับส้มตำและลาบ

5. ผ้าไหมแพรวา (กาฬสินธุ์, สุรินทร์, ขอนแก่น)

ที่มา : thaneewannaka

📌 จุดเด่น:

  • เป็นผ้าไหมที่มีลวดลายละเอียดและประณีต
  • ราคาสูง แต่เป็นของฝากที่มีคุณค่า
  • มีชื่อเสียงจากกลุ่มทอผ้าในกาฬสินธุ์และสุรินทร์

6. กุนเชียงหมู/เนื้อ (สกลนคร, นครพนม)

📌 จุดเด่น:

  • ทำจากหมูหรือเนื้อวัวคุณภาพดี หมักกับเครื่องเทศ
  • มีรสชาติหวาน เค็ม และมันกำลังดี
  • เหมาะเป็นของฝากสำหรับทำอาหารที่บ้าน

7. แมงกะพรุนน้ำจืด (อุบลราชธานี)

📌 จุดเด่น:

  • เป็นของฝากที่แปลกใหม่และน่าสนใจ
  • เป็นของหายาก พบได้เฉพาะในแม่น้ำโขง
  • นิยมทำเมนูยำ หรือใส่ในต้มแซ่บ

8. ไส้กรอกอีสาน (นครราชสีมา, ขอนแก่น, อุดรธานี)

ที่มา : baansomtum.com

📌 จุดเด่น:

  • ไส้กรอกหมักรสเปรี้ยว หอมเครื่องเทศ
  • นิยมย่างบนเตาถ่าน กินกับขิงสดและพริกสด
  • มีทั้งไส้กรอกหมูและไส้กรอกเนื้อ

สรุป ที่ เที่ยว หน้า ร้อน ภาค อีสาน

การท่องเที่ยวภาคอีสานเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจสำหรับผู้ที่ต้องการสัมผัสวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ธรรมชาติที่งดงาม และโบราณสถานที่ทรงคุณค่า นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางไปเยี่ยมชมสถานที่ต่าง ๆ ได้ตลอดทั้งปี และได้เรียนรู้ถึงวิถีชีวิตที่เรียบง่ายแต่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของชาวอีสาน แนะนำสถานที่สวยงาม น่าสนใจ พร้อมให้คุณออกไปค้นหา สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทย 2568 , แหล่ง ท่องเที่ยว ภาค ใต้