เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด

เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด ที่เที่ยวสำหรับสายเขียวที่ไม่อยากเปลืองเงิน

เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด คือการเดินทางท่องเที่ยวในสถานที่ที่มีธรรมชาติเป็นจุดเด่น เช่น ภูเขา น้ำตก ทะเล ป่า หรืออุทยานแห่งชาติ โดยใช้จ่ายอย่างประหยัดและคุ้มค่า มุ่งเน้นประสบการณ์และการได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากกว่าความหรูหราหรือความสะดวกสบายแบบโรงแรม 5 ดาว

วิธีการ เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด 2025

เกาะล้าน
ที่มา : roijang.com
  1. วางแผนล่วงหน้า
    • เลือกสถานที่ที่ไม่ไกลจากที่พัก เพื่อลดค่าเดินทาง
    • ศึกษาค่าใช้จ่ายเบื้องต้น เช่น ค่าเข้าอุทยาน ค่ารถโดยสาร ค่ากางเต็นท์ ฯลฯ
    • ตรวจสอบช่วงเวลาที่เหมาะสมและอากาศ เพื่อหลีกเลี่ยงฤดูท่องเที่ยว (high season) ที่ค่าที่พักอาจแพง
  2. ใช้บริการขนส่งสาธารณะ
    • รถไฟ รถเมล์ หรือรถตู้ ช่วยลดค่าใช้จ่ายกว่าการขับรถเอง
    • บางพื้นที่มีรถโดยสารของอุทยานให้บริการราคาประหยัด
  3. พักในรูปแบบที่คุ้มค่า
    • กางเต็นท์เองในพื้นที่อุทยาน
    • เช่าเต็นท์หรือห้องพักราคาถูกจากอุทยาน
    • หาที่พักแบบโฮมสเตย์ของชาวบ้าน
  4. เตรียมอาหารและของใช้ส่วนตัวไปเอง
    • นำของกินแห้งหรือทำอาหารง่าย ๆ ลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อร้านอาหาร
    • พกขวดน้ำ แก้ว ช้อนส้อมส่วนตัว ลดค่าใช้จ่ายและลดขยะ
  5. เดินทางเป็นกลุ่ม
    • แชร์ค่ารถ ค่าที่พัก และค่ากิน จะช่วยให้ประหยัดขึ้นมาก
    • ยังเพิ่มความปลอดภัยและสนุกขึ้นอีกด้วย
  6. ใช้สิทธิ์หรือโปรแกรมสนับสนุนการท่องเที่ยว
    • บางช่วงรัฐบาลมีโปรเที่ยวช่วยชาติ หรือโปรจากอุทยานที่ลดราคาค่าธรรมเนียม

นี่คือ 10 ที่เที่ยวธรรมชาติยอดนิยมในประเทศไทย ปี 2025 ที่ทั้งสวย โดดเด่น และคุ้มค่ากับการเดินทาง สำหรับสายรักธรรมชาติทุกสไตล์

1. ดอยหลวงเชียงดาว – เชียงใหม่

เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด
ที่มา : tour.trekkingthai.com

สวรรค์ของสายเทรค! ดอยที่สูงอันดับ 3 ของไทย วิวพาโนรามาสวยอลัง มีทะเลหมอกยามเช้า และอากาศเย็นเกือบทั้งปี ดอยที่เปรียบเสมือนหลังคาแห่งล้านนา ดอยหลวงเชียงดาวเปิดประตูสู่โลกของธรรมชาติบริสุทธิ์ ให้คุณได้สัมผัสทั้งสายหมอกขาว ทุ่งหญ้าสีทอง และเทือกเขาสลับซับซ้อนในยามเช้าแบบพาโนรามา

  • ไฮไลต์: วิว 360 องศา, ดอกไม้บนดอย, ลานกางเต็นท์กลางเขา
  • ฤดูแนะนำ: พ.ย. – มี.ค.

จุดเด่น:

  • ยอดเขาสูงอันดับ 3 ของไทย (2,225 เมตร)
  • เหมาะกับคนชอบเดินป่าแบบจริงจัง (ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง)
  • วิวเทือกเขาแบบพาโนรามา 360 องศา

ประสบการณ์:

  • ต้องเดินเท้าประมาณ 6-7 กม. (ไป-กลับ) แต่คุ้มสุด ๆ
  • แคมป์กลางดอยอากาศหนาวจัด มีโอกาสเห็นหมอก 2 ชั้น

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่าขออนุญาต+ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง ~ 1,000–1,500 บาท
  • มีรอบเปิดให้ขึ้นเฉพาะ พ.ย. – มี.ค.

2. เกาะหลีเป๊ะ – สตูล

เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด
ที่มา : ticket2attraction.com

มัลดีฟส์เมืองไทย! น้ำทะเลใสปิ๊ง หาดทรายขาวละเอียด และมีแนวปะการังสมบูรณ์ ซ่อนตัวอยู่กลางทะเลอันดามัน เกาะหลีเป๊ะคือโอเอซิสแห่งความสงบ ความงามของน้ำทะเลใสราวคริสตัล หาดทรายสีขาวนวล และแนวปะการังที่ยังคงสมบูรณ์ ทำให้ที่นี่กลายเป็นจุดหมายปลายทางในฝันของนักเดินทางทั่วโลก

  • ไฮไลต์: ดำน้ำดูปลานีโม่, พักโฮมสเตย์ติดทะเล, พายคายัค
  • ฤดูแนะนำ: พ.ย. – พ.ค.

จุดเด่น:

  • น้ำทะเลสีฟ้าใสราวคริสตัล หาดทรายขาวนุ่ม
  • ดำน้ำได้ทั้งน้ำตื้นและน้ำลึก มีปะการังเขากวางหลากสี

ประสบการณ์:

  • บรรยากาศเงียบสงบกว่าเกาะทางใต้ชื่อดัง
  • ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากคนละฝั่งของเกาะ!

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่าที่พักมีตั้งแต่ 500 – 5,000 บาท/คืน
  • ค่าเรือไปกลับจากปากบารา ~ 800 – 1,200 บาท

3. เขาใหญ่ – นครราชสีมา

เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด
ที่มา : mgronline.com

อุทยานแห่งชาติระดับยูเนสโก หลากหลายทั้งป่า น้ำตก สัตว์ป่า และเส้นทางเดินป่า ป่าผืนใหญ่ใกล้กรุงที่อัดแน่นด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ “เขาใหญ่” คือจุดหลบหนีจากชีวิตเมืองที่สมบูรณ์แบบ มีทั้งน้ำตก เส้นทางศึกษาธรรมชาติ และโอกาสได้พบสัตว์ป่านานาชนิด

  • ไฮไลต์: เดินป่าศึกษาธรรมชาติ, ชมกระทิง, น้ำตกเหวสุวัต
  • ฤดูแนะนำ: ต.ค. – ก.พ.

จุดเด่น:

  • อุทยานระดับยูเนสโก มีกิจกรรมให้ทำหลากหลาย
  • มีทั้งน้ำตก เส้นทางเดินป่า จุดชมสัตว์ป่า

ประสบการณ์:

  • ขับรถดูสัตว์ตอนกลางคืน (Night Safari)
  • เที่ยวน้ำตกเหวสุวัต – โลเคชันดังจากหนัง “The Beach”

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่าเข้าอุทยานคนไทย 40 บาท
  • ค่ากางเต็นท์ ~ 30 – 250 บาท (ขึ้นอยู่กับขนาดและทำเล)

4. น้ำตกทีลอซู – ตาก

เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด
ที่มา : amarintv.com

หนึ่งในน้ำตกที่ยิ่งใหญ่และสวยที่สุดในเอเชีย เดินเทรคไปชมธรรมชาติแบบออฟโรด ซ่อนตัวอยู่ในผืนป่าอุ้มผาง น้ำตกทีลอซูคือขุมทรัพย์ธรรมชาติที่น่าอัศจรรย์ ด้วยสายน้ำตกที่ไหลลงมาอย่างยิ่งใหญ่อลังการท่ามกลางผืนป่าเขียวขจี สถานที่แห่งนี้เหมาะสำหรับผู้แสวงหาการผจญภัยอย่างแท้จริง

  • ไฮไลต์: น้ำตกสูงอลังการ, แคมป์ปิ้งริมน้ำ
  • ฤดูแนะนำ: พ.ย. – พ.ค.

จุดเด่น:

  • ใหญ่ที่สุดในไทย และติดอันดับน้ำตกที่สวยที่สุดในเอเชีย
  • ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผาง

ประสบการณ์:

  • ต้องนั่งรถ 4×4 และเดินเท้าก่อนถึง (ออฟโรดเล็กน้อย)
  • บรรยากาศแคมป์ปิ้งริมลำธารสุดฟิน

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่ารถรับ-ส่งจากตัวเมือง ~ 1,500 บาท/คน
  • ค่าเข้าเขตฯ ~ 100 บาท / ค่ากางเต็นท์ 30–100 บาท

5. ดอยอินทนนท์ – เชียงใหม่

เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด
ที่มา : ananda.co.th

จุดสูงสุดของประเทศไทย มีทั้งยอดดอย หมอก ดอกไม้ และพระอาทิตย์ขึ้น ดอยอินทนนท์คือสวรรค์สำหรับคนรักอากาศเย็น วิวภูเขา ทะเลหมอก และดอกไม้เมืองหนาว โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ที่นี่คืออีกหนึ่งจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามที่สุดของประเทศ

  • ไฮไลต์: พระมหาธาตุนภเมทนีดล, เส้นทางเดินป่ากิ่วแม่ปาน
  • ฤดูแนะนำ: ต.ค. – ก.พ.

จุดเด่น:

  • จุดสูงสุดของประเทศไทย (2,565 เมตร)
  • มีทั้งธรรมชาติ หมอก ดอกไม้ และจุดชมวิว

ประสบการณ์:

  • เส้นทางเดินป่ากิ่วแม่ปาน ได้วิวสวยมากๆ
  • จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นโรแมนติกสุด ๆ

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่าเข้าอุทยาน 50 บาท / ค่ารถขึ้นดอย ~ 1,000 บาท (แชร์ได้)
  • มีบ้านพักและพื้นที่กางเต็นท์หลายจุด

6. เกาะเต่า – สุราษฎร์ธานี

สวรรค์ของนักดำน้ำ! ธรรมชาติใต้น้ำสวย น้ำทะเลใส ฟ้าสด เกาะขนาดกะทัดรัดที่อัดแน่นด้วยชีวิตชีวาใต้ทะเล “เกาะเต่า” ได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก ด้วยน้ำทะเลใส ปลาสีสันสดใส และบริการดำน้ำระดับมืออาชีพ เหมาะทั้งมือใหม่และนักดำน้ำขั้นเทพ

  • ไฮไลต์: ดำน้ำลึก, ดำน้ำตื้น, หาดทรายรี
  • ฤดูแนะนำ: มี.ค. – ก.ย.

จุดเด่น:

  • จุดดำน้ำอันดับต้น ๆ ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
  • มีแหล่งเรียนดำน้ำ (ทั้ง Scuba และ Snorkeling)

ประสบการณ์:

  • น้ำทะเลใสมาก ปลานีโม่ว่ายเต็ม
  • ดำน้ำดูปะการัง + นั่งเรือรอบเกาะแบบ One Day Trip

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่าเรือไป-กลับจากชุมพรหรือสุราษฎร์ ~ 1,000 บาท
  • ค่าดำน้ำแบบ Fun Dive ~ 2,000 – 3,500 บาท/วัน

7. ภูสอยดาว – อุตรดิตถ์

ภูสอยดาว
ที่มา : sanook.com

ดินแดนสายหมอกและดอกหงอนนาค มีลานสนกลางภูเขาให้กางเต็นท์ ดินแดนแห่งสายหมอก ทุ่งหงอนนาค และลานสนสุดกว้างไกล “ภูสอยดาว” คือสวรรค์ของนักเดินป่าที่แสวงหาทั้งความสงบและความงามบริสุทธิ์จากธรรมชาติ สวยที่สุดในช่วงฤดูฝนและต้นหนาว

  • ไฮไลต์: เดินเทรคขึ้นยอดภู, ลานสน, ทะเลหมอก
  • ฤดูแนะนำ: ก.ค. – ต.ค.

จุดเด่น:

  • เดินป่า 6.5 กม. ขึ้นยอดภู สู่ลานสนกลางภูเขา
  • ช่วงหน้าฝนจะมี “ดอกหงอนนาค” บานเต็มทุ่ง

ประสบการณ์:

  • ท้าทายเล็กน้อย แต่มีเส้นทางชัดเจน
  • วิวทะเลหมอกยามเช้า + ลานกางเต็นท์วิวพีค

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่าเข้า 40 บาท / ค่าเจ้าหน้าที่นำทาง ~ 1,000 บาท/กลุ่ม
  • ค่ากางเต็นท์ 30 บาท

8. ปางอุ๋ง – แม่ฮ่องสอน

ปางอุ๋ง
ที่มา :expedia.co.th

บรรยากาศโรแมนติกแบบสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย มีทะเลสาบและป่าสนสองใบ ทะเลสาบเงียบสงบท่ามกลางหุบเขาและป่าสน ปางอุ๋งเปรียบเหมือนภาพวาดที่มีชีวิต ช่วงเช้า ๆ จะมีหมอกบางลอยเหนือน้ำ เสียงนกร้องขับกล่อมให้รู้สึกเหมือนอยู่ในโลกอีกใบ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์

  • ไฮไลต์: นั่งแพไม้ไผ่, หมอกยามเช้า, กางเต็นท์ริมอ่างเก็บน้ำ
  • ฤดูแนะนำ: พ.ย. – ก.พ.

จุดเด่น:

  • อ่างเก็บน้ำกลางหุบเขา มีป่าสนสองใบขึ้นรอบ ๆ
  • ได้ชื่อว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย”

ประสบการณ์:

  • ล่องแพไม้ไผ่ตอนเช้า ชมหมอกลอยเหนือผิวน้ำ
  • เงียบสงบ เหมาะกับสายชิล

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่าแพไม้ไผ่ ~ 150 – 300 บาท/ลำ
  • ค่าที่พักโฮมสเตย์หรือกางเต็นท์ ~ 300 – 800 บาท

9. หมู่เกาะสุรินทร์ – พังงา

เกาะที่ขึ้นชื่อเรื่องแนวปะการังที่ยังคงสมบูรณ์มากที่สุด สวรรค์ของการดำน้ำตื้น! หมู่เกาะสุรินทร์ขึ้นชื่อว่ามีแนวปะการังน้ำตื้นที่สมบูรณ์ที่สุดในประเทศไทย พร้อมด้วยน้ำทะเลใสแจ๋ว หมู่ปลาแหวกว่ายเต็มผืนทะเล และวิถีชีวิตชาวมอแกนที่น่าค้นหา

  • ไฮไลต์: ดำน้ำตื้นดูปะการัง, หมู่บ้านชาวมอแกน
  • ฤดูแนะนำ: พ.ย. – พ.ค.

จุดเด่น:

  • ดำน้ำตื้นดีที่สุดในไทย (ปะการังเขากวางยังสมบูรณ์)
  • มีหมู่บ้านชาวมอแกนให้เรียนรู้วิถีชีวิต

ประสบการณ์:

  • ทริปวันเดียวจากท่าเรือคุ้มสุด หรือพักแคมป์ในอุทยาน
  • น้ำใสแบบทะเลกระจก เห็นปลาใต้ผิวน้ำชัดมาก

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • Day Trip ~ 2,000 – 2,500 บาท (รวมเรือ+ดำน้ำ+อาหาร)
  • ค่าพักในอุทยาน ~ 300 – 500 บาท/คืน

10. แก่งกระจาน – เพชรบุรี

แก่งกระจาน
ที่มา : chillpainai.com

อุทยานแห่งชาติขนาดใหญ่ มีทั้งป่า เขา และเขื่อน ป่าผืนใหญ่ไม่ไกลกรุงเทพฯ ที่เต็มไปด้วยธรรมชาติหลากหลาย ทั้งแม่น้ำ ป่าเขา และหมอกยามเช้า แก่งกระจานเหมาะสำหรับการแคมป์ปิ้ง เดินป่าเบา ๆ หรือขับรถขึ้นจุดชมวิวพะเนินทุ่งเพื่อชมทะเลหมอกสุดอลังการ

  • ไฮไลต์: ดูผีเสื้อ, เดินป่าห้วยแม่ขมิ้น, เล่นน้ำตก, กางเต็นท์ริมน้ำ
  • ฤดูแนะนำ: ต.ค. – มี.ค.

จุดเด่น:

  • อุทยานขนาดใหญ่ ติดทะเลสาบและเทือกเขา
  • ใกล้กรุงเทพฯ เดินทางง่าย เหมาะกับแคมป์สั้น ๆ

ประสบการณ์:

  • จุดดูผีเสื้อหลายพันตัวที่ “พะเนินทุ่ง”
  • ขับรถขึ้นจุดชมวิวทะเลหมอกตอนเช้า

ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ:

  • ค่าเข้า 40 บาท / ค่ากางเต็นท์ 30 – 100 บาท
  • รถ 4×4 ขึ้นพะเนินทุ่ง ~ 1,200 บาท/คัน (แชร์กันได้)

ข้อดีของการ เที่ยวธรรมชาติแบบงบประหยัด

  • ประหยัดเงิน แต่ได้ประสบการณ์ที่ล้ำค่า
  • ได้สัมผัสธรรมชาติอย่างแท้จริง
  • ส่งเสริมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน
  • เป็นโอกาสดีในการพักผ่อนจากชีวิตเร่งรีบในเมือง

ตัวอย่างอุปกรณ์ที่ควรพก

  • เต็นท์ / ถุงนอน / แผ่นรองนอน
  • ไฟฉาย / power bank
  • ชุดเดินป่า / รองเท้าเดินสบาย
  • อาหารแห้ง / ขวดน้ำ / อุปกรณ์ทำครัวเล็ก ๆ
  • ชุดปฐมพยาบาล

การวางแผนเที่ยวธรรมชาติเป็นอะไรที่น่าตื่นเต้นมาก โดยเฉพาะถ้าเราจัดการให้ดีตั้งแต่ต้น จะช่วยให้ทั้งสนุก ประหยัด และปลอดภัยด้วย แนะนำ สถานที่สวยงาม น่าสนใจ พร้อมให้คุณออกไปค้นหา ดำน้ำทะเลไทย , ตั้งแคมป์ปิ้งในไทย